Conventure รับสร้างบ้านสวย คุณภาพคุ้มค่า ราคายุติธรรม
บ้านทรุด บ้านแตกร้าว โครงสร้างบ้านไม่แข็งแรง ถือเป็นปัญหายอดฮิตของคนสร้างบ้านและต่อเติมเลยทีเดียว หากไม่ต้องการเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมก็ควรต้องตอกเสาเข็ม เพื่อรับน้ำหนักบ้านทั้งหลังไว้ ไม่ให้บ้านทรุดเสียหายในอนาคต แต่การจะเลือกใช้เสาเข็มให้เหมาะสมกับโครงสร้างบ้านนั้นไม่ใช่เรื่องงานเลย ดังนั้นบทความนี้ Conventure จึงจะมามอบเกร็ดความรู้ในการเลือกเสาเข็มให้เหมาะกับการสร้างบ้านกัน ต้องการสร้างบ้าน 1 ชั้น 2 ชั้น และ 3 ชั้น ควรต้องเลือกเสาเข็มอะไร เพื่อที่จะได้บ้านที่มีโครงสร้างแข็งแรง พร้อมแล้วมาเริ่มกันที่ทำความรู้จักกับประเภทเสาเข็มกันก่อนเลย
เสาเข็มคอนกรีตสำเร็จรูปในโรงงานที่ใช้ปั้นจั่นตอกเสาเข็มลงไปในดินจนได้ความลึกที่เหมาะสมต่อการก่อสร้างบ้าน เป็นเสาเข็มที่มีวิธีการไม่ซับซ้อน ค่าใช้จ่ายไม่สูงจึงเป็นที่นิยมมาก แต่ข้อเสียคือจะเกิดแรงสั่นสะเทือนในการตอก และเคลื่อนที่ของดิน จึงต้องให้ผู้เชี่ยวชาญบริการรับสร้างบ้านและทีมวิศวกรควบคุมการตอกเสาเข็มด้วย
เสาเข็มที่ก่อสร้างโดยหล่อคอนกรีตลงในดินที่ถูกเจาะเป็นหลุมไว้ก่อนหน้า ตามด้วยการหล่อในที่หน้าบริเวณทำงาน เป็นวิธีการก่อสร้างบ้านที่ช่วยลดการเกิดแรงสั่นสะเทือนจากการตอกเสาเข็ม รวมถึงไม่เป็นการรบกวนอาคารหรือบ้านรอบข้างอีกด้วย ซึ่งการตอกเสาเข็มเจาะนั้นมีวิธีการตอกที่ค่อนข้างยุ่งยาก ต้องใช้เครื่องมือเจาะขุดดินลงไปให้ลึกจนได้ขนาดความลึกและเส้นผ่าศูนย์กลางที่กำหนด จำเป็นต้องให้ผู้เชี่ยวชาญบริการรับสร้างบ้านและทีมวิศวกรควบคุมการตอกเสาเข็มด้วยเช่นกัน
เสาเข็มที่ใช้วิธีการปั่นคอนกรีตในแบบหล่อ ซึ่งหมุนด้วยความเร็วสูงจนทำให้เนื้อคอนกรีตความหนาแน่นสูงกว่าคอนกรีตที่หล่อโดยใช้วิธีธรรมดาทั่วไป มีโครงเหล็กอัดแรงฝังอยู่ในเนื้อคอนกรีต ทำให้เสาเข็มประเภทนี้มีความแข็งแรงสูง รับน้ำหนักได้มาก เหมาะสำหรับสร้างอาคารขนาดใหญ่ ไม่เหมาะสำหรับการก่อสร้างบ้าน
ก่อนที่จะตัดสินว่าควรเลือกใช้เสาเข็มแบบไหนดีในการสร้างบ้าน มาทำความเข้าใจถึงลักษณะการรับน้ำหนักของเสาเข็มให้ดีเสียก่อน โดยลักษณะการรับน้ำหนักของเสาเข็มนั้นแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่
เสาเข็มสั้นหรือเสาเข็มที่รับน้ำหนักโดยใช้แรงเสียดทาน ซึ่งเสาเข็มชนิดนี้จะถ่ายน้ำหนักตัวอาคารกับชั้นดิน โดยใช้แรงเสียดทานช่วยในการรองรับน้ำหนัก สำหรับการก่อสร้างบ้านในพื้นที่กรุงเทพมหานครส่วนใหญ่นิยมใช้ลักษณะการรับน้ำหนักของเสาเข็มประเภทนี้ เนื่องจากสภาพดินในพื้นที่กรุงเทพมหานครนั้นเป็นดินอ่อนนั่นเอง
เสาเข็มยาว ซึ่งเป็นเสาเข็มที่ถ่ายน้ำหนักตัวอาคารลงในชั้นดิน ผ่านชั้นดินอ่อนและชั้นหินที่มีความแข็งแรง เพื่อช่วยในการรองรับน้ำหนักเสาเข็มโดยตรง โดยส่วนใหญ่แล้วจะเหมาะสำหรับการก่อสร้างบ้านในพื้นที่ต่างจังหวัด
โดยปกติแล้วการเลือกเสาเข็มในการสร้างบ้านนั้น สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา คือเรื่องของดินในจุดก่อสร้างบ้าน ดินมีความเหมาะสมกับเสาเข็มชนิดใด เนื่องจากดินแต่ละที่มีความแตกต่างกัน ถึงแม้ว่าจะอยู่บริเวณใกล้เคียงกันก็ตาม อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปแล้วในกรณีที่สร้างบ้าน 1 ชั้น และ 2 ชั้น ผู้เชี่ยวชาญผู้ให้บริการรับสร้างบ้านส่วนใหญ่นิยมเลือกใช้เป็นเสาเข็มคอนกรีตแบบเข็มตอก และเป็นเสาเข็มหน้าตัดรูปตัวไอ ความยาวประมาณ 12 ถึง 16 เมตร ซึ่งเข็มในลักษณะนี้ส่วนมากจะอาศัยแรงฝืดของดินเป็นตัวรองรับน้ำหนัก ทำให้สามารถรองรับน้ำหนักของบ้านขนาดไม่เกิน 2 ชั้นอยู่แล้ว อีกทั้งเสาเข็มประเภทนี้ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างบ้านให้กับเจ้าของบ้านได้ดีอีกด้วย
การสร้างบ้านขนาด 3 ชั้นขึ้นไป และอาคารขนาดใหญ่ที่ต้องรองรับน้ำหนักมาก เช่น โกดัง และโรงงานผลิตสินค้า จำเป็นต้องเลือกใช้เสาเข็มที่รองรับน้ำหนักได้มาก เพื่อป้องกันการทรุดและเสาเข็มเกิดการ Fail ซึ่งเสาเข็มที่ผู้เชี่ยวชาญบริการรับสร้างบ้านเลือกใช้ก็มักจะเป็นเสาเข็มคอนกรีตแบบตอก และเป็นเสาเข็มรูปตัวไอเช่นเดียวกับการสร้างบ้านไม่เกิน 2 ชั้น เพียงแต่จะเป็นเสาเข็มที่มีความยาวขึ้น ประมาณ 18 ถึง 24 เมตร แล้วให้ทำการถ่ายน้ำหนักลงสู่ชั้นดินแข็งโดยตรง เพื่อที่โครงสร้างของบ้านจะได้มีความมั่นคงแข็งแรง
เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงได้คำตอบกันแล้วใช่ไหมว่า หากต้องการสร้างบ้าน 1 ชั้น 2 ชั้น และ 3 ชั้น ควรต้องเลือกเสาเข็มแบบใด และความยาวประมาณเท่าไรในการก่อสร้างบ้าน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญนอกจากเสาเข็มแล้ว การพิจารณาเรื่องของดิน และสภาพแวดล้อมในการก่อสร้างบ้านเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยเลย หากต้องการให้บ้านมีโครงสร้างที่แข็งแรงมั่นคง ไม่ทรุดแน่นอน ควรเลือกขอคำแนะนำและเลือกใช้บริการผู้เชี่ยวชาญในการบริการรับสร้างบ้านจะดีที่สุด หากใครที่ต้องการความช่วยเหลือ สามารถปรึกษา Conventure บริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำของประเทศไทยได้